Daddy's lil girl : chapter2
Daddy’s lil girl
02
ความสัมพันธ์ของเราสองคนค่อยๆ พัฒนานับตั้งแต่วันนั้นที่เพนท์เฮาส์ของเจบี แบมแบมโทรฯมาหาผมแทบทุกวันอย่างที่เจ้าตัวเคยบอก ซึ่งผมชอบนะที่ได้ยินเสียงบ่นแง้วๆ คอยอ้อนผมให้พาไปไหนมาไหนตลอดเวลา
และไอ้ที่บอกว่าจะให้คอยติวหนังสือให้เนี่ยลืมไปได้เลย แบมแบมน่ะเป็นเด็กฉลาดถึงขั้นฉลาดมาก หนังสือที่เจ้าตัวอ่านบางบทผมยังต้องให้เขาสอนเลยด้วยซ้ำ
ผมกับแบมแบมตัวติดกันมากขึ้นซะเกินกว่าสถานะคุณอากับหลานสาวของเพื่อน ผมเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเด็กน้อยแทนคุณอาของเจ้าตัวตั้งแต่วันนั้น เพราะผมเป็นเพื่อนกับเจบีมาเกือบทั้งชีวิต ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เจบีจะไม่รู้ว่าผมคิดอะไรกับหลานสาวของตัวเอง แน่นอนว่าเจบีรู้และเพราะการงานหน้าที่ที่รัดตัว เขาจึงไว้ใจ ฝากฝังแบมแบมให้ผมคอยดูแล
และอย่างที่เคยบอกไว้ ผมจะดูแล ปฏิบัติต่อแบมแบมให้เหมือนดั่งเจ้าหญิงที่โชคดีที่สุดในโลก
Daddy’ll treat you like a princess.
จนเมื่อสองเดือนที่แล้วผมได้รับสายโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทบอกว่าจะต้องบินไปประชุมเปิดตัวธุรกิจที่ลาสเวกัสกระทันหัน จึงวานให้ดูแลแบมแบมโดยส่งคีย์การ์ดสำรองเพนท์เฮาส์เจ้าตัวพร้อมพาสเวิร์ดมาให้ถึงบริษัท
มันเป็นสัญญาณบอกว่าอะไรดีๆ กำลังจะเริ่มขึ้น
แบมแบมโทรฯมาหาผมหลังจากที่คุณอาของเขาวางสายไป น้ำเสียงน่ารักบอกให้ผมตั้งใจทำงานส่วนหนูน้อยจะคอยผมอยู่ที่บ้านของตัวเอง ให้ผมรีบๆ ไปหาเขา แบมแบมจะรู้ไหมว่าน้ำเสียงแบบนั้นมันทำให้ผมอยากปัดแฟ้มเอกสารที่ต้องเซ็นเกือบสิบแฟ้มลงพื้นแล้วเดินออกจากห้องทำงานไปหาเด็กน้อยทันที
นั่งทำงานไปเรื่อยๆ มองดูเวลาที่นาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะทำงานก็พบว่าใกล้เข้าสู่เช้าวันใหม่แล้ว ป่านนี้เด็กน้อยของผมคงหลับไปแล้วล่ะมั้งและหวังว่าแบมแบมจะไม่โกรธที่ผมไปหาเขาช้า คิดได้ดังนั้นผมก็เก็บอุปกรณ์ทำงานที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะให้เรียบร้อยจากนั้นก็เดินออกจากห้องทำงานไป
บริษัทกับเพนท์เฮาส์ของแบมแบมอยู่ห่างกันเพียงแค่สองบล็อก ผมใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
เพราะว่าชั้นบนสุดของคอนโดคือเพนท์เฮาส์ของเจบีทั้งหมด ประตูลิฟต์เปิดออกผมก็พบว่าทุกอย่างมืดสนิทราวกับว่าไม่มีคนอาศัยอยู่ ตอนนี้ตีสองกว่าแล้ว และเจ้าหญิงของผมคงขึ้นไปนอนรอบนเตียงแล้วแน่นอน
ขายาวของผมเดินก้าวขึ้นบันไดอย่างไม่รีบร้อนเพราะเราสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน ค่อยๆบรรจงเปิดประตูห้องที่ผมโปรดปรานที่สุดในเพนท์เฮาส์นี้ ห้องนอนของแบมแบม ทุกอย่างเงียบสนิทมีเพียงแสงไฟสลัวๆ คอยบอกทางให้เดินไปหาร่างบอบบางที่กำลังนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา
คิดดูสิครับเวลาหลับยังน่า...
ทิ้งกายนอนตะแคงท้าวศอกกับหมอนหันหน้าเข้าหาเด็กน้อยที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องราว สำรวจใบหน้าสวยที่ไร้การแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแล้วสะดุดอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่ม ซึ่งไม่ว่าจะมองกี่ครั้งมันก็ทำให้ผมอยากจะเอาอะไรๆ ใส่เข้าไป มันคงรู้สึกดีไม่หยอก...
อ่า..นี่ผมคิดอกุศลอีกแล้วใช่ไหม
ใช่สิ..ช่วงนี้อากาศเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว และผมก็เพิ่งสังเกตว่าชุดนอนของเจ้าหญิงตัวน้อยคืนนี้คือเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีชมพูตัวใหญ่ ความน่ารักของแบมแบมทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วมือเกลี่ยแก้มใสเล่นไปมา ร่างเล็กขยับยุกยิกเข้ามาซบอกแกร่งหาไออุ่นจนผมลอบยิ้มให้กับท่าทางคล้ายเด็กน้อยนั่น
นี่คงยังไม่รู้ตัวสินะว่าผมมาหาแล้ว
ถ้างั้น..ขออนุญาตทำให้หนูน้อยรู้สึกตัวหน่อยแล้วกัน
ผมทาบริมฝีปากตัวเองลงบนอวัยวะเดียวกันของอีกฝ่าย ขบเม้มดูดดึงแค่ภายนอกเล่นจนปากอิ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำลายของผม ฉวยโอกาสอยู่แบบนั้นเกือบห้านาที ร่างเล็กที่โดนหาเศษหาเลยเริ่มยุกยิก ดวงตากลมที่ปิดอยู่ขยับนิดหน่อยก่อนจะค่อยๆ ลืมขึ้น
การกระทำที่เอาแต่ได้ของผมถูกหยุดทันทีเมื่อแบมแบมตื่น ผมยิ้มโชว์เขี้ยวขาวส่งไปให้คนตรงหน้าแล้วกดจูบเบาๆ ลงบนหน้าผากมน
“แดดดี้มาหาหนูแล้ว” แต่เด็กน้อยกลับทำหน้าบูดบึ้ง
สงสัยจะงอนผมจริงๆ...
“ช้า..แดดดี้มาช้า” เจ้าหญิงของผมพูดเสียงงอแงก่อนจะพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมอยู่ที่ช่วงเอว
ซนไม่เข้าเรื่อง...
“แดดดี้งานเยอะ ขอโทษนะคะ” ผมลูบไล้ขาเนียนที่โผล่พ้นเชิ้ตตัวใหญ่เล่นไปมาจนพอใจถึงย้ายท่อนแขนไปโอบเอวคอดไว้
“แบมรอตั้งนาน รู้ไหมแบมเหงาแค่ไหน”
น้ำเสียงออดอ้อนบวกกับใบหน้าที่ดูงัวเงียมันทำให้ผมอยากจะกอดรัดเอาไว้ทั้งคืนให้แบมแบมรู้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะมาหาเขาช้าเลยจริงๆ
“เจ้าหญิงของแดดดี้ไม่งอแงนะ”
“ฮื่อ..”
“มานอนกันดีกว่าค่ะ” มือเรียวของผมตบลงบนพื้นที่ข้างๆ ตัว บ่งบอกให้คนที่กำลังนั่งทับผมอยู่ลงมานอนให้ผมกอดได้แล้ว
“แบมไม่ง่วง
แดดดี้ทำแบมตื่นก็ต้องทำให้แบมง่วงสิ”
พูดจบแบมแบมก็ขยับก้นสวยของตัวเองต่ำลงจนทับเข้าที่กึ่งกลางลำตัวของผมพอดีแถมยังค่อยๆ ขยับโยกไปมาเบาๆ เล่นเอาเลือดในกายของผมสูบฉีดอย่างรุนแรง
“อ่า...ไม่ซนสิคะ” แล้วก็อดครางไม่ได้เพราะมันรู้สึกดีจริงๆ
เหมือนว่าหนูน้อยจะไม่ได้สนใจที่ผมพูดไปเลยสักนิด กลับกันดูจะท้าทายเสียมากกว่าเพราะสะโพกมนเริ่มขยับกระแทกส่วนกลางของผมแรงขึ้นๆ
“ถ้าแดดดี้ทนไม่ไหวไม่รู้ด้วยนะ”
“แดดดี้ก็ไม่ต้องทนสิ”
แล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือน หึ
ผมขยับเปลี่ยนท่าเป็นนั่งพิงหัวเตียงโดยมีร่างยั่วยวนคร่อมอยู่บนตักในขณะที่ริมฝีปากของเราทั้งคู่บดเบียดกันไปมา แขนเรียวโอบคล้องรอบคอผมเป็นที่ยึด สอดมือเข้าไปใต้สาปเสื้อตัวโคร่งก่อนจะลูบไล้บีบเค้นผิวเนียนนุ่มจนหน้าท้องแบนราบหดเกร็งเพราะความกระสัน
แบมแบมเป็นฝ่ายยอมแพ้ผละจูบออกก่อนเพราะเจ้าตัวเริ่มหายใจไม่ทัน ผมบังคับมือหนาให้ปลดกระดุมสองเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตสีหวาน เพียงเท่านี้ส่วนอวบอิ่มสองข้างก็ปรากฏสู่สายตาของผมเรียบร้อย
ดวงตาคมของผมจ้องสิ่งสวยงามทั้งสองด้วยความลุ่มหลง เด็กดื้อเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยโดยใช้แขนเรียวสองข้างท้าวลงกับเตียงโดยมีแขนแกร่งของผมหนึ่งข้างโอบเอวประคองเอาไว้ แบมแบมแอ่นอกสวยอวดโชว์ให้ผมได้เชยชม ไม่รอช้า มือหนาข้างที่ว่างถูกส่งไปเค้นคลึงพร้อมสะกิดทักทายยอดสีสวย
“อ๊ะ” เสียงเล็กครางออกมายามที่ถูกลิ้นร้อนของผมดูดดึงยอดอกสวย
ร่างเล็กแอ่นสู้มากกว่าเดิมเพราะความเสียวที่โดนปรนเปรอ ประกบริมฝีปากครอบครองอกอิ่มสองข้างสลับไปในขณะที่มือหนากำลังลูบไล้ขาเนียนภายใต้เชิ้ต หยุดลูบไล้อยู่ที่สิ่งสวยงามใต้เพนตี้ลูกไม้สีขาวตัวจิ๋วที่ความชื้นแฉะเริ่มค่อยๆซึมออกมา
อกสองข้างยังคงถูกหยอกล้อด้วยลิ้นร้อน ส่วนคนบนตักก็ส่งเสียงครางเอาใจผมเป็นระยะๆ อีกทั้งยังบิดกายไปมาเพราะความเสียวที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นิ้วเรียวเกี่ยวขอบชั้นในตัวน้อยมาคาไว้ที่ข้อเท้าเล็กก่อนที่กลีบหวานจะโดนหยอกล้อด้วยนิ้วโป้งของผมที่กดคลึงไปมาจนแบมแบมเด้งตัวขึ้นมากอดคอผมไว้แน่น
นิ้วเรียวหายผลุบเข้าไปในกลีบสวยอย่างง่ายดายเพราะสารชื้นแฉะที่หลั่งออกมาอย่างเต็มที่ ใบหน้าสวยเกยไว้ที่ไหล่ของผมหนำซ้ำยังครางเสียงผะแผ่วข้างใบหูจนผมแทบทนไม่ไหว
ผมขยับนิ้วเข้าออกเร็วขึ้นและเพิ่มจำนวนจากหนึ่งเป็นสองนิ้ว จุกสวยถูกผมดูดดึงเล่นอีกครั้ง จนทำให้ร่างเล็กขยับตัวลอยหวือออกจากตักผม มือบางขยุ้มผมตรงช่วงท้ายทอยระบายความเสียว สองนิ้วเรียวขยับเข้าออกถี่ขึ้นจนได้ยินเสียงเฉอะแฉะบาดหู
“อ่า..เสียว แดดดี้” เด็กซนส่งมือบางมาจับเข้าที่ข้อมือของผมข้างที่กำลังหยอกล้ออยู่กับช่วงล่างคล้ายกับว่าจะผ่อนแรงให้เบาลง
“ใกล้ยังคะเด็กดี” ผมพูดโดยที่ริมฝีปากยังคงคลอเคลียอกตูมไม่ห่าง
“อ๊ะ แบมจะ..เสร็จ”
ใบหน้าสวยคมเชิดขึ้นเล็กน้อยปล่อยเสียงครางราวกับทนไม่ไหว ผมขยับนิ้วอีกสองสามทีร่างน้อยๆที่นั่งคร่อมตักก็สั่นเทิ้ม
“อ๊า!”
ผมค่อยๆ ถอดถอนนิ้วเรียวออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกับร่างเล็กที่ทรุดตัวซบลงที่อกแกร่ง เจ้าหญิงของผมหอบหายใจถี่ เนื้อตัวยังคงสั่นไม่หาย ผมคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้แน่นพร้อมลูบหลังแผ่วเบาคลายความเหนื่อยให้กับแบมแบม
“ฮื่อ..แดดดี้แบมเหนื่อย” หนูน้อยบอกเสียงอู้อี้
“จะนอนได้รึยังหืม” ผมถามพร้อมเกลี่ยปรอยผมด้านหน้าที่ชื้นเหงื่อทัดเข้าที่ใบหู
“แบมง่วงแล้ว พาแบมนอนหน่อย”
“ถ้าครั้งหน้าหนูยั่วอีกแดดดี้จะไม่ทนแล้วจริงๆนะ”
ผมจะถือว่าครั้งนี้เป็นการรีวิวบทลงโทษของเด็กซนก็แล้วกัน แต่คราวหน้าผมรับรองว่าแบมแบมได้เรียนบทที่หนึ่งอย่างแน่นอน
“เดี๋ยวแดดดี้พาหนูไปล้างก่อนจะได้สบายตัว”
หลักจากจัดการทำความสะอาดและส่งหนูน้อยเข้านอนเรียบร้อย ผมก็ปลีกตัวมาทำธุระส่วนตัวของบ้าง อ่า..ผมเพิ่งเห็นว่ากางเกงสแล็คของผมเปียกเป็นวงกว้าง สงสัยเพราะน้ำหวานจากเด็กดื้อแน่ๆ
We’re both wild
and the night’s young
and you’re my drug
breathe you in til my face numb
drop it down to that bass drum
แสงสว่างยามเช้าที่ส่องผ่านกระจกบานใหญ่ของห้องนอนกระทบเข้ากับเปลือกตา ผมพลิกตัวหันหลังหนีสัมผัสกวนใจก่อนจะใช้แขนแกร่งควานหาร่างนุ่มนิ่มของแบมแบมที่โดนผมหยอกล้อไปเมื่อคืน แต่พื้นที่ข้างๆ ที่ควรจะมีหนูน้อยนอนซบอกผมกลับว่างเปล่า
เจ้าหญิงของผมตื่นแล้วงั้นเหรอ?
คิดได้ดังนั้นผมพยายามค่อยๆ ลืมตา ขยับตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียงหันไปมองนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียงพบว่าตอนนี้มันเที่ยงเข้าให้แล้ว และนี่ถือว่าเป็นการตื่นสายที่สุดในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อคืนกว่าหนูน้อยจะถูกผมปรนเปรอเสร็จ จากฟ้าที่มืดสนิทเห็นดวงดาวชัดเจนก็เริ่มสว่างขึ้น
มองไปยังปลายเตียงเห็นมีชุดคลุมอาบน้ำ เสื้อยืดและกางเกงวอร์มสีดำขายาววางพาดอยู่ โดยมีแปรงสีฟันแกะใหม่และกระดาษโพสอิททับอยู่ด้านบนอีกที ผมลุกออกจากที่นอนด้วยบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว หยิบชุดคลุมมาสวมก่อนจะดึงโพสอิทมาอ่าน
‘What do you wanna have for breakfast? Coffee or me?’
ใบหน้าของผมประดับด้วยรอยยิ้มทันทีที่อ่านข้อความบนกระดาษจบ ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเราสองคนเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งจะเข้าเรือนหอไปเมื่อคืน เจ้าหญิงของผมน่ะซุกซนจริงๆ เลยให้ตาย
ผมที่ยังคงอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำเดินลงมาหาหนูน้อยที่ชั้นล่างหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟเอสเพรสโซลอยอบอวลไปทั่วบริเวณกว้างทำให้ขายาวของผมก้าวไปทางห้องครัวโดยอัตโนมัติ
ร่างอ้อนแอ้นอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำเช่นเดียวกัน ผ้าคลุมสีขาวขับให้ผิวเนียนสวยของเขาดูเด่นขึ้นถนัดตา เจ้าหญิงของผมยืนหันหลังตั้งใจง่วนกับการชงกาแฟ ผมค่อยๆ เดินย่องเข้าไปยืนซ้อนหลังคนตัวเล็กก่อนจะกอดหมับเข้าที่เอวคอดแล้วขโมยหอมแก้มนุ่มนิ่มไปอีกฟอดใหญ่
“มอร์นิ่งค่ะเจ้าหญิงของแด๊ดดี้”
แบมแบมหมุนตัวกลับมา แขนเรียวจัดการคล้องคอแล้วเขย่งปลายเท้ามอบจูบแสนน่ารักให้กับผม เราสองคนแลกจูบดูดดื่มร่วมกันหลายนาทีโดยมีมือปลาหมึกของผมขยุ้มบีบเค้นสะโพกอวบเล่นไปมา แล้วผมก็พบว่าภายใต้ชุดคลุมนี้ไม่มีแม้แต่ชั้นในสักชิ้นเดียวรวมทั้งข้างบนและข้างล่าง
อ่า..ผมอยากจะกระตุกปมเชือกชุดนี้เสียจริงๆ
ถ้าเจบีจับได้ว่าผมเกือบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลานสาวตัวเอง ผมจะโดนตำรวจจับข้อหาชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปีพรากผู้เยาว์อายุสิบหกปีไหมนะ ชักจะกลัวแล้วล่ะ งั้น..ผมจะทำเงียบๆ แบบไม่ให้เจบีรู้แล้วกัน ดีไหม?
“มอร์นิ่งคิสค่ะแดดดี้ของแบม”
“ฮื่อ..แดดดี้” เด็กน้อยครางเสียงงุ้งงิ้ง เอ่ยเรียกผมอย่างออดอ้อนแล้วซุกลงกับหน้าอกแกร่งอีกทั้งยังช้อนตากลมโตใสแป๋วจ้องหน้าผมคล้ายกับลูกแมว
“หืม” แขนแกร่งโอบกอดรอบเอวบางไว้ข้างหนึ่งส่วนมือข้างที่เหลือก็ลูบปรอยผมข้างหน้าที่เจ้าตัวรวบขึ้นไม่หมดเล่นไปมา
“แบมทำอาหารไม่เป็น..ชงได้แค่กาแฟ”
อย่าบอกนะว่าท่าทีอ้อนๆ กับน้ำเสียงงอแงที่เจ้าตัวทำเมื่อสักครู่นี้คือการเอาใจ ผมคิดว่าแบมแบมคงกลัวว่าผมจะไม่พอใจที่เขาทำอาหารไม่ได้ โธ่เด็กน้อย..
ทำไงดีล่ะ..ท่าทีแบบนั้นมันทำให้ผมอยากจะพาหนูน้อยเข้าไปปลอบในห้องนอนสักสองสามชั่วโมง
“กาแฟก็พอแล้วค่ะคนเก่ง” ผมตอบก่อนจะกดจูบแผ่วเบาลงบนหน้าผากมน
“Daddy, what do you want first? Coffee or me?”
“Coffee then, cus you have to take some rest for tonight”
สรุปแล้วมื้อเช้าควบเที่ยงของเราทั้งสองก็คือกาแฟร้อนและนมสด ผมมีประชุมตอนบ่ายสองจึงต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เพนท์เฮาส์ของตัวเองโดยมีเจ้าหญิงตัวน้อยออดอ้อนขอมาด้วย ตอนนี้ผมจึงมีหน้าที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นให้หนูน้อยที่ชื่อว่าแบมแบมจับแต่งตัวใส่สูทผูกไทด์พร้อมสำหรับการประชุมในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า
I got a condo in Manhattan
Baby girl, what's hatnin'?
You and your ass invited...
แล้วขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าผมพาเด็กน้อยเข้ามาในเพนท์เฮาส์ของผมได้ อย่าหวังว่าผมจะปล่อยออกไปง่ายๆ
“แดดดี้ต้องไปแล้วนะ”
ผมจัดการหยิบเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการประชุมรวบมาถือไว้ในมือข้างหนึ่ง โดยอีกข้างโอบเอวเล็กเดินไปยังลิฟต์ส่วนตัวภายในห้อง
“อีกตั้งนาน ที่ทำงานอยู่ข้างล่างเอง แดดดี้อยู่กับแบมก่อนซี่” แบมแบมงอแง มือเล็กจับปลายเสื้อผมแน่นไม่ยอมให้เข้าลิฟต์
ใช่แล้วครับ...ป๊าผมเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้โดยสร้างบริษัทไว้ที่ชั้นเจ็ดสิบสอง และมีเพนท์เฮาส์ส่วนตัวอยู่ชั้นบนสุดที่ตั้งตระหง่านระฟ้าอยู่กลางมหานครนิวยอร์ก
“แดดดี้เป็นประธานต้องรีบไป หนูไม่งอแงนะ”
“ก็ได้”
“ถ้าหนูง่วงก็ไปนอนในห้องแดดดี้ได้นะคะ”
“อื้อ”
“เดี๋ยวจะรีบกลับมาให้รางวัลนะเด็กดี”
‘จุ๊บ’
ทาบริมฝีปากตัวเองลงบนอวัยวะเดียวกันที่นุ่มนิ่มและอวบอิ่มกว่าของอีกฝ่าย ชมชิมความหวานจนพอใจถึงผละออก ใช้นิ้วเกลี่ยน้ำใสๆ ที่เปรอะเปื้อนมุมปากของหนูน้อยออกให้แล้วมอบจูบอ่อนโยนบนหน้าผากมนอีกที
“ฮื่อ...แบมจะรอนะ”
ไม่คิดเลยว่าภายในระยะเวลาห้าเดือนแบมแบมจะติดผมงอมแงมขนาดนี้ อย่าว่าแต่หนูน้อยเลย ผมเองก็ติดเขามากไม่ต่างกัน ผมรู้สึกว่าเราสองคนเหมือนแม่เหล็กคนละขั้ว ที่ไม่ว่าจะห่างกันแค่ไหนสุดท้ายต่างก็โดนแรงดึงดูดของตัวเองดึงเข้ามาประกบชิดติดกันอยู่ดี
I want you forever
even when we’re not together
ออกจากลิฟต์ก็เดินตรงเข้าห้องทำงานทันที เปิดประตูไปก็เจอป๊ากับม๊านั่งคุยรอผมอยู่ในห้องก่อนแล้ว การประชุมครั้งนี้ค่อนข้างจริงจังพอสมควร เพราะว่าเกี่ยวกับการเปิดตัวโรงแรมโครงการใหม่ที่กำลังจะสร้างอีกหกเดือนข้างหน้าในชิคาโกเลยทำให้ประมุขใหญ่อย่างป๊าต้วนต้องเข้ามาประชุมเอง
“สวัสดีครับป๊า ม๊า ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ”
ผมไหว้ทักทายผู้มีพระคุณทั้งสองด้วยมารยาทแบบไทยก่อนจะเดินเข้าไปกอดท่านคนละทีด้วยความคิดถึง ครอบครัวผมไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันเท่าไหร่เพราะแต่ละคนต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของตัวเอง พี่สาวผมต้องดูแลโรงแรมที่ลอสแองเจลิส ส่วนน้องชายเรียนหนังสืออยู่ที่ซานดิเอโก
และก่อนที่ป๊ากับม๊าจะบินกลับไปแอลเอ ผมจะพาเจ้าหญิงตัวน้อยไปทานข้าวกับท่าน และผมคิดว่าคุณป๊ากับคุณม๊าคงจะหลงแบมแบมไม่ต่างจากผมแน่ๆ
พูดแล้วก็อยากจะประชุมให้เสร็จเร็วๆ อยากใช้เวลาอยู่กับหนูน้อยสองคนแล้วล่ะ
“ป๊ากับม๊าเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเอง” ม๊าผมตอบแล้วคว้าผมเข้าไปกอดแถมยังลูบศีรษะผมไปมา
ผมอาจจะดูโตในสายตาคนอื่นอย่างเช่นแบมแบม ถึงยังไงแล้วสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยังมองว่าเด็กเสมอ ผมรักอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนี้มากพอๆ กับที่ผมหวังว่าเจ้าหญิงตัวน้อยจะรักอ้อมกอดของผมบ้าง
“ลูกชายฉันดูหน้าตาอิ่มเอมดีจังนะมีของดีเหรอ” ป๊าเอ่ยถามพร้อมเลิ่กคิ้วกวนผมอย่างที่ชอบทำ
“โธ่ ป๊ารู้ทันผมตลอดเลย”
“อยู่ไหนล่ะพามาให้เห็นหน่อย”
“บนห้องน่ะครับ”
“แฟนใหม่ลูกเหรอแล้วเขาทำงานอะไร” เป็นม๊าที่ถามบ้าง
“น้องเพิ่งจะสิบหก กำลังเรียนโฮมสคูลอยู่ครับ เอ่อ..แต่ยังไม่ใช่แฟนนะม๊า”
‘เพี๊ยะ!’
“นี่ตามาร์ค! น้องยังเด็กอยู่เลยแล้วลูกพาเขามาบ้านแล้วเหรอ” ม๊าถามผมด้วยน้ำเสียงตื่นๆ แถมฟาดเข้าที่แขนไม่ยั้ง ส่วนป๊าก็นั่งหัวเราะสบายใจไม่คิดจะห้ามม๊าแม้แต่น้อย
แม้ว่าเราจะอยู่ในสังคมเมกันแต่เรื่องศีลธรรมม๊าผมเนี่ยที่หนึ่งเลยล่ะ
“เขาเป็นหลานสาวของเจบี น่ารักมากเลยนะ ม๊าต้องชอบแน่”
“เอาล่ะไว้ค่อยคุยต่อ ใกล้เวลาประชุมแล้วพร้อมรึยังมาร์ค” ป๊าตัดบท
“ครับ เดี๋ยวคุยกันนะม๊า” ม๊าพยักหน้ารับรู้แล้วกอดผมอีกรอบพร้อมกับหอมแก้มหนึ่งทีเป็นการให้กำลังใจ
อ่า...รู้สึกมีพลังขึ้นเยอะเลยล่ะครับ
เข้าห้องประชุมไปก็เห็นว่าทุกคนมารออยู่ก่อนแล้ว ผมและป๊าตัดสินใจเริ่มประชุมทันทีก่อนเวลาจริงยี่สิบนาที
ทุกอย่างราบเรียบตลอดการประชุมตามที่ผมคาดหวัง ทุกคนมีความคิดเห็นตรงกันและพอใจกับโครงการใหม่ที่กำลังจะสร้าง ดังนั้นการประชุมในครั้งนี้เลยเลิกเร็วกว่าปกติ
เหมือนยกภูเขาออกจากอก มันรู้สึกโล่งใจและดีใจที่มีคนคอยสนับสนุนผมอยู่ มันเป็นความรู้สึกที่พูดไม่ได้จริงๆ
วันนี้ผมไม่มีงานต่อและตอนนี้ก็อยากเจอหน้าหนูน้อยมากๆ อยากให้เขาเข้ามาออดอ้อนแบบที่ชอบทำ
นั่นน่ะคือยาดีๆ สำหรับผมรองลงมาจากอ้อมกอดอบอุ่นของม๊าผมเลยล่ะ
เพราะป๊ากับม๊ามีนัดทานข้าวกับเพื่อนแถวบรูคลินช่วงตอนเย็น ดินเนอร์ที่ผมตั้งใจจะพาแบมแบมไปทานด้วยกับท่านเป็นอันต้องพับเก็บไปก่อน
ผมได้ยินเสียงเล็กๆ กำลังหัวเราะลอยมาจากห้องนั่งเล่นทันทีที่เดินเข้ามาในเพนท์เฮาส์ ใบหน้าคมของผมประดับรอยยิ้มกว้างโดยอัตโนมัติ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหนูน้อยคนนี้น่ะคือความสุขสำหรับผมจริงๆ
“แบมแบม” เอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่กำลังจดจ่อเกมส์โชว์ในโทรทัศน์โดยไม่สนใจสักนิดว่าผมกลับมาแล้ว
ขออนุญาตน้อยใจแล้วให้เจ้าหญิงคนนี้ง้อผมบนโซฟาสักหนึ่งชั่วโมงจะเป็นอะไรไหมนะ
“ฮื่อ..แดดดี้” แบมแบมกระโดดลงจากโซฟาแล้ววิ่งเข้ามากอดผมแน่น
‘ฟอด’
กดจูบลงบนแก้มใสเป็นการให้รางวัล เด็กดีเขย่งปลายเท้าจูบตอบกลับมาเข้าที่คางของผม มือน้อยจัดการปลดเน็คไทด์ออกแล้วนำไปถือไว้
ความรู้สึกมันเหมือนคู่รักที่เพิ่งแต่งงานใหม่จริงๆ ให้ตาย
“เด็กดีหิวไหมคะ” ผมอุ้มแบมแบมลอยหวือจากพื้นเดินไปยังโซฟา ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งโดยมีร่างเล็กๆ ทับอยู่ที่ตักอีกที
“แบมหิวมากจนจะกินแดดดี้ได้ทั้งตัวแล้ว”
“แดดดี้ยอมโดนหนูกินเลย”
“แบมกินเก่งนะ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม”
“แดดดี้จะอยู่ให้หนูกินไปทั้งชีวิตเลยดีไหมคะ” ผมตอบพลางหยิกจมูกรั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
เพราะแบมแบมน่ารักแบบนี้ไง ผมเลยอยากจะทั้งขย้ำและถนอมรักษาเขาไปพร้อมๆ กัน
นี่แค่ห้าเดือนที่รู้จักกันผมยังรู้สึกเอ็นดูแบมแบมมากขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดถึงอนาคตข้างหน้าเลย ถ้าเจ้าหญิงของผมคนนี้ร้องไห้งอแงอยากได้อะไร ผมคงหามาให้ทุกอย่างแน่ๆ
If you say you want a good time
well here I am baby,
here I am baby,talk to me
tell me what’s on your mind
if you want it, girl come and get it
all this is here for you
Mark_t
Liked by dan_daneil_, w_jackson and 11 others
Mark_t I call her princess♥
8 minutes ago
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น